ประวัติความเป็นมาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
Asean Economic Community History
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้( Association of Southeast Asian Nations หรือ ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ ( The Bangkok Declaration) เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๑๐ โดย สมาชิกผู้ก่อตั้งมี ๕ ประเทศได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์สิงคโปร์และไทย ซึ่งมีผู้แทนทั้ง ๕ ประเทศ ประกอบด้วย นายอาดัม มาลิก (รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย) ตุน อับดุล ราชัก บิน ฮุสเซน (รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีกระทรวง พัฒนาการแห่งชาติมาเลเซีย) นายนาซิโซ รา มอส (รัฐมนตรีต่างประเทศ ฟิลิปปินส์) นายเอส ราชารัตนัม (รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์)และพันเอก (พิเศษ)ถนัด คอมันตร์ (รัฐมนตรีต่างประเทศไทย) ในเวลาต่อมาได้มีประเทศต่าง ๆ เข้าเป็นสมาชิก เพิ่มเติม ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม (เป็นสมาชิก เมื่อ ๗ มกราคม ๒๕๒๗) เวียดนาม (วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๓๘)ลาว พม่า (วันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๐) และกัมพูชา (เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๔๒) ตามลำดับ จากการรับกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิก ทำให้อาเซียนมีสมาชิกครบ ๑๐ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันอาเซียนเป็นกลุ่มเศรษฐกิจภูมิภาคขนาดใหญ่มีประชากรรวมกันเกือบ ๕๐๐ ล้านคน อาเซียนต่อก่อตั้งเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับต่างประเทศและองค์ระหว่างประเทศ
นโยบายการดำเนินงานของอาเซียนจะเป็นผลจากการประชุมหารือในระดับหัวหน้ารัฐบาล ระดับ รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียน ทั้งนั้นการประชุมสุดยอด ( ASEAN Summit) หรือ การประชุมของ ผู้นำ ประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นการประชุมระดับสูงสุดเพื่อกำหนดแนวนโยบายในภาพรวม และเป็นโอกาสที่ประเทศสมาชิกจะได้ร่วมกัน ประกาศเป้าหมายและแผนงานของอาเซียนในระยะยาว ซึ่งจะปรากฏเป็นเอกสารในรูปแบบต่างๆ อาทิแผนปฏิบัติการ( Action Plan) แถลงการณ์รวม (Joint Declaration) ปฏิญญา (Declaration) ความตกลง (Agreement) หรือ อนุสัญญา (Convention) ส่วน การประชุม ในระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโส จะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาทั้งนโยบายในภาพรวมและนโยบายเฉพาะด้านการเมืองและความมั่นคงอาเซียนได้จัดทำปฏิญญากำหนดให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นเขต สันติภาพ เสรีภาพความเป็นกลาง ( Zone of Peace, Freedom and Neutrality-TAC) ในปี ๒๕๑๙ และ จัดทำสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ( Treaty on the Southeast Asian Nuclear Weapon-Free Zone-SEANWFZ) ในปี ๒๕๓๘ รวมทั้งได้ริเริ่ม การประชุม อาเซียน ว่าด้วยความ ร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิ ก ( ASEAN Regional Forum-ARF) ซึ่งไทย เป็นเจ้าภาพ จัดการประชุม ระดับรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อปี๒๕๓๗
ด้านเศรษฐกิจอาเซียนได้ลงนามจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน ( ASEAN Free Trade Area-AFTA) ใน ปี ๒๕๓๕ เพื่อลดภาษีศุลกากรระหว่างกัน เพื่อช่วยส่งเสริมการค้าภายในอาเซียนใหม่ปริมาณเพิ่มขึ้น ลดต้นทุน การผลิตสินค้าและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศกับทั้งได้ขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เพิ่มเติม เพื่อให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจสมบรูณ์แบบและมีทิศทางชัดเจน ด้วยการจัดตั้งเขตลงทุนอาเซียน (ASEAN Investment Areya-AIA) ด้านสังคม อาเซียนมีความร่วมมือเฉพาะด้าน เพื่อให้ประชาชนมีความสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและมี การพัฒนา ในทุกด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต "ประชาคมอาเซียน" (ASEAN Community) เป็นเป้าหมายของการรวมตวักนัของประเทศสมาชิก อาเซียน ภายในปี ๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๕)โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมของผู้นำ อาเซียน คือ"การสร้างประชาคม อาเซียนที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง มีกฎเกณฑ์กติกาที่ชัดเจน และมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง" ทั้งนั้นเพื่อสร้าง ประชาคมที่มีความแข็งแกร่ง สามารถสร้างโอกาสและรับมือสิ่งท้าทายทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เพิ่มอำนาจต่อรองและขีดความสามารถการแข่งขันของ อาเซียนในเวทีระหว่าง ประเทศทุกด้าน โดยให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีสามารถประกอบกิจกรรมทาง เศรษฐกิจได้สะดวกมากขึ้น และประชาชนในอาเซียนมีความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนั้นยังมี การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน ใน ๓ มิติคือด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านกฎระเบียบ และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน จากการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ ๙ ที่อินโดนีเซีย เมื่อ ๗ ต.ค. ๒๕๔๖ ผู้นำประเทศสมาชิก อาเซียน ได้ตกลงกันที่จะจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งประกอบด้วย ๓ เสาหลัก คือ
๑. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC)
๒. ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Socio-Cultural Pillar)
๓. ประชาคมความมั่นคงอาเซียน (Political and Security Pillar)
คำขวัญของอาเซียน คือ“ One Vision, One Identity, One Community.” หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม เดิมกำหนดเป้าหมายที่จะตั้งขึ้นในปี๒๕๖๓ แต่ต่อมาได้ตกลงกันเลื่อนกำหนดให้เร็วขึ้นเป็นปี ๒๕๕๘ และก้าวสำคัญ ต่อมาคือการจัดทำ ปฏิญญาอาเซียน ( ASEAN Charter) ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่ เดือน ธันวาคม ปี ๒๕๕๒ นับ เป็นการยกระดับความร่วมมือของอาเซียนเข้าสู่มิติใหม่ในการสร้าง ประชาคม โดยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางกฎหมายและมีองค์กรรองรับการดำเนินการเข้าสู่เป้าหมายดังกล่าว ภายในปี ๒๕๕๘ ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียน รวม ๑๐ ประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า มาเลเซียอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา บรูไน สำหรับเสาหลักการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( ASEAN Economic Community หรือ AEC ภายในปี ๒๕๕๘ เพื่อให้อาเซียน มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการการลงทุน แรงงานฝีมืออย่างเสรีและ เงินทุนที่เสรีขึ้น ต่อมาในปี๒๕๕๐ อาเซียนได้จัดทำ พิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้ง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) เป็นแผนบูรณาการงานด้านเศรษฐกิจให้เห็นภาพรวมในการมุ่งไปสู่ AEC ซึ่งประกอบด้วย แผนงาน เศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ พร้อมกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จนบรรลุ เป้ าหมายในปี ๒๕๕๘ รวมทั้งการให้ความยืดหยุ่นตามที่ประเทศสมาชิกได้ตกลงกันล่วงหน้า ในอนาคต AEC จะเป็นอาเซียน +๓ โดยจะเพิ่มประเทศจีน เกาหลีใต้และญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ด้วยและ ต่อไปก็จะมีการเจรจาอาเซียน +๖ จะมีประเทศจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดียต่อไป หน่วยงานที่ทำหน้าที่ประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานในกรอบอาเซียนประกอบด้วย
๑.๑. สำนักเลขาธิการอาเซียน ( ASEAN Secretariat) ที่กรุงการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียเป็นศูนย์กลาง ในการติดต่อระหว่างประเทศสมาชิกโดย มีเลขาธิการอาเซียน ( Secretary-General of ASEAN) เป็นหัวหน้าสำนักงาน ที่ผ่านมาผู้แทนจากประเทศไทยดำรง ตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนแล้ว ท่าน คือ ฯพณฯ นายแผน วรรณเมธีระหว่างปี๒๕๒๗ – ๒๕๒๙ ดร.สุรินทร์พิศสุวรรณ ระหว่างปี๒๕๕๑ – ๒๕๕๕
๒. สำนักงานเลขาธิการแห่งชาติหรือ ASEAN National Secretariat เป็นหน่วยงานระดับกรมในกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียน มีหน้าที่ประสานกิจการอาเซียนและติดตาม ผลการดำเนินงานในประเทศนั้น
๓. สำหรับประเทศไทยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศและ คณะกรรมการผู้แทนถาวร ประจำอาเซียน ( Committee of Permanent Representatives-CPR) ซึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนระดับเอกอัครราชทูต ที่ไดรับการแต่งตั้งมาจากประเทศสมาชิก มีภารกิจในการสนับสนุน การทำงานของคณะมนตรีประชาคมอาเซียนและ องค์กรระดับรัฐมนตรีอาเซียนเฉพาะสาขา รวมทั้งประสานงานกับ สำนักเลขาธิการอาเซียน และ สำนักเลขาธิการอาเซียนแห่งชาติตลอดจนดูแล ความร่วมมือของอาเซียน กับ หุ้น ส่วนภายนอก ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศสมาชิกเห็นพ้องต้องกัน ที่จะให้ความสำคัญ ของการ มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาศักยภาพในการร่วมมือกันปัญหาและความท้าทาย ตลอดจนเพื่อความสร้างความแข็งแกร่งและอำนาจ ต่อรองให้แก่ประเทศสมาชิกผู้นำ อาเซียนได้ลงนามร่วมกัน ในปฏิญญาว่า ด้วยความร่วมมือใน อาเซียน ฉบับที่ ๒ (Declaration of ASEAN Concord II หรือ Ball Concord II) เพื่อประกาศจัดตั้งประชาคม อาเซียน (ASEAN Community) ภายในปี ๑๕๖๓ (ค.ศ. ๒๐๒๐)โดยสนับสนุนการรวมตัวและความร่วมมือ อย่างรอบด้าน โดยใน ด้านการเมืองให้จัดตั้ง "ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน ” หรือ ASEAN Political-Security Community (APSC) ด้านเศรษฐกิจให้จัดตั้ง "ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ” หรือ ASEAN Economic Community (AEC) และด้านสังคมและวัฒนธรรมให้จัดตั้ง "ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม อาเซียน” หรือ ASEAN Socio-Cultural Community (ASCC) ซึ่งต่อมาผู้นำ อาเซียนได้เห็นชอบให้เคร่งรัด การรวมตัวเป็น ประชาคมอาเซียนให้เร็วขึ้น กว่าเดิม อีก ๕ ปี คือภายในปี ๒๕๕๘ (ค.ศ. ๒๐๑๕)โดย เล็งเห็นว่า สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอาเซียนจะเป็นต้องปรับตัว เพื่อให้สามารถคงบทบาทนำ ในการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาคและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
ภาษาอาเซียน
ภาษาทางการที่ใช้ในการติดต่อประสานงานระหว่างประเทศสมาชิก คือ ภาษาอังกฤษ
คำขวัญของอาเซียน
"หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม”
(One Vision, One Identity, One Community)
อัตลักษณ์อาเซียน
อาเซียนจะต้องส่งเสริมอัตลักษณ์ร่วมกันของตนและความรู้สึกเป็นเจ้าของในหมู่ประชาชนของตน เพื่อให้บรรลุชะตา เป้าหมาย และคุณค่าร่วมกันของอาเซียน